หลายคนคงรู้ดีว่าการตลาดและการขายเปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ที่สำคัญตำราแบบเก่าก็ไม่สามารถใช้งานได้ดีเท่าที่ควร Cipher เป็น Inbound Marketing Agency Partner เจ้าแรกในประเทศไทยกับ Hubspot ผู้นำด้านการทำ Inbound marketing ใหญ่ที่สุดในโลก โดย Cipher ได้ให้ข้อมูลหลังจากเข้าร่วมงาน Grow with HubSpot Singapore 2017 ถึงสิ่งสำคัญที่ทุกธุรกิจควรทำ Inbound Marketing ดังนี้

ทุกวันนี้ก่อนที่ลูกค้าจะตัดสินใจซื้อหรือใช้บริการอะไรก็แล้วแต่ เขาจะหาข้อมูลในเว็บไซต์ หรือ Search Engine ทำให้ Outbound Marketing ไม่มีประสิทธิภาพดีเท่าเมื่อก่อน เพราะจากสถิติชี้ชัดว่าการดูทีวีลดลง 83% การกดเลิกติดตามอีเมลล์ 91% ไม่เคยเปิด Direct Mail 20% และ Do-Not-Call List 48%

ในอดีต โฆษณาสามารถควบคุมผู้บริโภคได้ แต่ทุกวันนี้ ผู้บริโภคควบคุมได้เองว่าจะเลือกเสพ หรือซื้ออะไร

โลกของดิจิตอล คนชอบคอนเทนท์ ดังนั้นเครื่องมือที่จะช่วยการตลาดแบบ Inbound Marketing ได้ก็คือ บล็อก และ เว็บคอนเทนท์, รูปภาพ และ Infographic, วิดีโอ และ Podcasts, Presentations & eBooks, Software และ Tools ดังนั้นหากเรามีจำนวนคอนเทนท์เยอะ ก็จะส่งผลให้ได้ Lead มากขึ้นเช่นกัน

Inbound Marketing ควรเริ่มจากการสร้างคอนเทนท์ให้กับลูกค้าได้ตรงจุด ตรงกลุ่มเป้าหมาย ต้องเข้าใจว่าเขาชอบเสพเนื้อหาแบบไหน และคอนเทนท์ที่มีประสิทธิภาพก็จะช่วยให้คนเซิร์ทหาเราเจอในอินเตอร์เน็ต

เมื่อดึงคนเข้าเว็บหรือเพจได้แล้ว เราจะเปลี่ยนพวกเขาให้กลายมาเป็นผู้ติดตาม, Leads และผู้โต้ตอบกับแบรนด์ได้ด้วยการเพิ่ม conversion rates โดยใช้ lead nurturing และ automation อย่างมีประสิทธิภาพ

การปิดการขาย เราต้องทำให้ Leads ไปอยู่ในจุดที่พวกเขาต้องการพูดคุยกับคนอื่นและขายของแทนเราได้ ซึ่งก็คือการทำให้เขารักในสินค้า-บริการของเรา จนเอาไปพูดปากต่อปาก

สุดท้าย นักการตลาดที่ทันสมัยต่างรู้ดีว่าดิจิทัลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ฉะนั้นทุกบริษัทควรปรับตัวให้ทัน ไม่ว่าจะเป็น ช่องทางการตลาดใหม่ๆ, อุปกรณ์เคลื่อนที่ และความก้าวหน้าของ AI

Outbound marketing VS Inbound marketing

Outbound marketing เริ่มด้อยประสิทธิภาพ เนื่องจากใช้กฎของการผลัก (push) หรือป่าวประกาศข้อมูลข่าวสาร ไปสู่ผู้บริโภค โดยใช้ความคิดของแบรนด์หรือนักการตลาดเพียงอย่างเดียว ผ่านทางสื่อเก่าอย่าง Print ads., TV ads., Cold Calling, Trades Shows, Mass mail

ในขณะที่ Inbound marketing ใช้กฎของการดึงดูด (pull) ในการทำการตลาด เป็นการดึงดูดให้ผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมายเข้ามาหาเราเอง ด้วยการสร้างและส่งต่อคอนเทนท์ที่มีคุณค่า สามารถตอบโจทย์ทุกคำถามและความต้องการของผู้บริโภค ทำให้เข้ามาหาเราได้มากขึ้น โดยใช้สื่อใหม่อย่าง Blogs, Ebooks, White papers, Viral youtube Videos, SEO

Inbound marketing เริ่มต้นได้จากการสร้าง Buyer’s Personas ของกลุ่มเป้าหมาย หาให้เจอว่ากลุ่มเป้าหมายของเราต้องการเสพเรื่องอะไร มีคำถามหรือมีข้อสงสัยในเรื่องไหน และต่อจากนั้นคือการสร้างคอนเทนท์เพื่อตอบสนองพวกเขาให้ตรงจุด ซึ่งจะช่วยให้เราได้ลูกค้าที่มีคุณภาพ เกิดกลุ่มลูกค้าใหม่ที่จงรักภักดีต่อแบรนด์ เพิ่มยอดขาย เพิ่มความน่าเชื่อถือในแบรนด์และประหยัดงบการตลาดได้มากกว่า Outbound marketing (อ่านวิธีการทำ Inbound Marketing)

Content marketing VS Inbound marketing

แม้ว่า Content Marketing และ Inbound Marketing จะมีความหมายหลักคล้ายกัน คือการสร้างคอนเทนท์ที่มีคุณค่า สามารถตอบปัญหาและความต้องการกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุด แต่ Inbound Marketing ยังขยายขอบเขตที่กว้างกว่ามาก เนื่องจากต้องใส่ใจในการสร้างสรรค์ส่วนอื่นประกอบกัน ไม่ว่าจะเป็นการทำ SEO, Call-to-action, CRM รวมไปถึงการสร้างเว็บไซต์ ให้ดูดี เพื่อให้ผู้บริโภคเชื่อถือ

เนื่องจาก Buyer’s Journey หรือพฤติกรรมผู้ซื้อส่วนใหญ่ในปัจจุบัน จะเริ่มจากการค้นหาข้อมูลสินค้า แล้ววิเคราะห์เกี่ยวกับตัวสินค้า รวมถึงค้นหาแหล่งขายหรือร้านที่ขาย และจบที่การซื้อขายในที่สุด Buyer’s Journey จึงมีส่วนสำคัญอย่างยิ่งต่อการทำ Inbound Marketing เพราะเราจะสามารถตอบสนองกลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายได้ตรงจุด และช่วยเพิ่มลูกค้าใหม่และเพิ่มยอดขายสินค้าได้ในระยะยาวอีกด้วย

Inbound marketing จึงถือเป็นรูปแบบการตลาดสำคัญที่ช่วยดึงดูดใจผู้ซื้อในยุค 4.0 ได้อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างยอดขายเพิ่มได้ในระยะยาว เพราะเป็นกลยุทธ์ที่เข้าถึงพฤติกรรมกลุ่มเป้าหมายได้โดยไม่ยัดเยียดข่าวสารให้กับลูกค้าจนเกินไป สำหรับนักการตลาดและผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าถึงกลยุทธ์นี้แบบเจาะลึกมากขึ้น บริษัท Cipher ก็ได้จัดงานสัมมนาหัวข้อ “INBOUND MARKETING การตลาดดึงดูด พลิกธุรกิจ (แบรนด์) ให้ปัง!!!” ซึ่งเป็นกลยุทธ์การสร้างการตลาดดึงดูด หรือ Inbound Marketing แบบเน้นๆโดยเฉพาะ งานจัดวันจันทร์ที่ 15 มกราคมนี้ เวลา 8 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น @BIG Coworking Space พระราม9 งานนี้คุ้มมากเพราะจ่ายเพียง 2,000 บาทเท่านั้น

ที่มา : https://www.smartsme.co.th