จุดเริ่มแรกของ BLOCK M.D. มาจากการที่เห็นญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวจำเป็นต้องไปหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านบางทีก็ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน

วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับสตาร์ทอัพที่เข้ามาแก้ปัญหาในด้านของสุขภาพ เพื่อให้ทุกคนได้เข้าพบแพทย์ และมีประวัติการรักษาของตัวเองอยู่กับตัว โดยไม่ต้องรอข้อมูลจากใคร ซึ่งคุณสถาพน พัฒนะคูหา กรรมการผู้จัดการและผู้ก่อตั้งบริษัท SmartContract Thailand จะมาเป็นผู้บอกเล่าถึงประโยชน์และความสำคัญของการนำเทคโนโลยี Blockchain เข้ามาผสมผสานกับเรื่องของสุขภาพ จนเกิดขึ้นเป็นสตาร์ทอัพด้าน Health Tech ที่น่าจับตามอง “BLOCK M.D.”

BLOCK M.D. เข้ามาช่วยแก้ปัญหาอะไรให้สังคมไทย

คุณสถาพน : BLOCK M.D. เป็นระบบ Health Information Exchange โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain ซึ่งระบบนี้จะช่วยให้การแลกเปลี่ยนข้อมูลผู้ป่วยและข้อมูลด้านสุขภาพ ระหว่างโรงพยาบาล คลินิก แลบ รวมถึงหน่วยงานด้านการประกันสุขภาพทั้งของรัฐและเอกชน สามารถทำได้อย่างปลอดภัยและมีความน่าเชื่อถือ

ด้วยระบบนี้ ไม่ว่าผู้ป่วยจะไปใช้บริการที่โรงพยาบาลไหน คุณหมอผู้ให้การรักษาก็จะสามารถเข้าถึงประวัติผู้ป่วยได้ทั้งหมด ไม่ว่าจะเคยไปเข้ารับการรักษาที่ไหนมาบ้าง หรือการส่งต่อผู้ป่วยระหว่างโรงพยาบาลก็สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น หรือในส่วนของตัวผู้ป่วยเองก็สามารถเข้าถึงประวัติการรักษาและข้อมูลสุขภาพทั้งหมดของตัวเองได้ ซึ่งจะช่วยให้ผู้ป่วยรวมถึงคนทั่วๆ ไปมีความรู้มีความเข้าใจเกี่ยวกับสุขภาพของตนเองได้ดียิ่งขึ้น และนำไปสู่การดูแลสุขภาพตัวเองให้ดีขึ้นได้

ที่มาของ BLOCK M.D. เกิดขึ้นได้ยังไง

คุณสถาพน : จุดเริ่มแรกของ BLOCK M.D. มาจากการที่เห็นญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวจำเป็นต้องไปหาคุณหมอผู้เชี่ยวชาญหลายท่าน ซึ่งแต่ละท่านบางทีก็ไม่ได้อยู่โรงพยาบาลเดียวกัน หรือบางครั้งอยากจะขอข้อมูลผู้ป่วยเพื่อเอาไปขอความคิดเห็นจากคุณหมอท่านอื่น (second Opinion) ซึ่งทุกครั้งก็จะต้องกรอกแบบฟอร์ม รอหนึ่งสัปดาห์กว่าจะได้ข้อมูลผู้ป่วยมา ซึ่งพอมาคิดว่า นี่แค่ผู้ป่วยคนเดียวยังวุ่นวายขนาดนี้ แล้วประเทศเรามีการส่งต่อผู้ป่วยประมาณปีละกว่า 10 ล้านครั้งเลยนะ นั่นแปลว่าแต่ละวัน ทั่วประเทศ น่าจะต้องมีทั้งผู้ป่วย หมอ พยาบาล เจ้าหน้าที่ ที่จะต้องมาเสียเวลาทำอะไรแบบนี้มากมาย ก็เลยรู้สึกว่า ถ้าเราสามารถช่วยให้เรื่อง Health Data ดีขึ้นได้ ก็น่าจะมีส่วนช่วยให้ระบบสุขภาพของประเทศให้ดีขึ้นได้

ซึ่งพอได้มาศึกษาจริงๆ แล้วก็ได้เจอว่า ปัญหามันเกิดจากที่ระบบสาธารณสุขของเรามีโรงพยาบาลเป็นตัวกลางในการถือข้อมูลผู้ป่วยนั่นเอง และตัวกลางนี้ก็ไม่ได้มีกระบวนการในการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพมากนัก ซึ่งถ้าเราอยากเพิ่มประสิทธิภาพและลดขั้นตอนต่างๆ ลง มันก็มี 2 ทางคือ หนึ่งหาวิธีที่จะช่วยให้ตัวกลางเดิมทำงานได้ดีขึ้น หรือสองคือ สร้างระบบที่มีความน่าเชื่อถือเทียบเท่าหรือมากกว่าตัวกลางเดิมมาทำงานแทน ซึ่งพอเราไปค้นหาต่อว่า แล้วระบบอะไรล่ะ ที่ให้ความน่าเชื่อถือ โปร่งใส ตรวจสอบได้ และทำงานได้มีประสิทธิภาพสูง จนได้คำตอบว่า เทคโนโลยี Blockchain นี่แหละ คือคำตอบ

พวกเราจึงได้สร้าง BLOCK M.D. ขึ้นมาเมื่อปลายปี 2016 หรือประมาณ 1 ปีก่อน ซึ่งได้เปิดตัวเป็นครั้งแรกในงานประกวด Thailand Startup SmartCamp 2016 และได้รับคัดเลือกให้เป็น Finalist ของงานประกวดดังกล่าวด้วย

ความยากลำบากที่สุดในการทำ BLOCK M.D. คืออะไร

คุณสถาพน : อุปสรรคมีไม่น้อยเลยครับ เพราะระบบสาธารณสุขในไทยมีความซับซ้อนในตัวเองมากอยู่แล้ว ซึ่งระบบ BLOCK M.D. เป็นหนึ่งในการเอาเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานกับข้อมูลสุขภาพเป็นที่แรกๆ ของในโลกด้วย ซึ่งนั่นหมายความว่าถึงเราจะไม่สามารถหาตัวอย่างอ้างอิงจากที่อื่นได้มากนักไม่มีตัวอย่างจากที่อื่นๆ ไว้อ้างอิงมากเท่าไหร่ ทั้งในไม่ว่าจะเป็นเรื่องรายละเอียดทางเทคนิคและในเรื่องโมเดลทางธุรกิจ ซึ่งทำให้เราต้องเริ่มต้นจากการเข้าไปทำความเข้าใจตั้งแต่เรื่องพื้นฐานที่สุด ลงไปนั่งข้างๆ ผู้ปฏิบัติงานจริงตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบนๆ ไปคุยกับทุกๆ คนใน Ecosystem และตั้งคำถามกับทุกๆ อย่างด้วย เพื่อสร้างเป็นทฤษฎีและโมเดลของเราเองขึ้นมา

BLOCK M.D. มีจำนวนผู้ใช้งานมากแค่ไหน ณ ปัจจุบัน

คุณสถาพน : ตอนนี้ BLOCK M.D. กำลังทำ Proof of Concept กับหน่วยงานประกันสุขภาพของภาครัฐแห่งหนึ่ง และในปี 2018 จะมีความร่วมมือกับสมาคม Healthtech ประเทศไทย เพื่อต่อเชื่อมระบบของสตาร์ทอัพที่เป็นสมาชิกเข้ากับระบบของโรงพยาบาล และคาดว่าน่าจะมีข้อมูลผู้ป่วยในระบบประมาณ 20,000 ราย ภายในปี 2018

มีเคล็ดลับในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างไรเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย

คุณสถาพน : เรามีหลักง่ายๆ ว่า ก่อนที่เราจะทำอะไรก็ตาม เราจะคิดย้อนกลับไปหาความตั้งใจในวันแรกของเราเสมอว่า เรามาทำ BLOCK M.D. เพราะอยากให้ประเทศไทยมีระบบข้อมูลสุขภาพที่ดีขึ้น และเพื่อตอบความตั้งใจนี้ เราได้พัฒนาการทดสอบ 3 ข้อขึ้นมา เพื่อเป็นตัววัดว่าสิ่งที่เราคิดนั้นยังตอบความตั้งใจนี้อยู่ไหม คือ 1. จะช่วยให้ผู้ป่วยได้รับบริการที่ดีขึ้นไหม 2. คุณหมอและบุคลากรในโรงพยาบาลต้องทำงานเพิ่มไหม 3. ช่วยเพิ่มศักยภาพให้คนและระบบสาธารณสุขของประเทศหรือไม่ ทุกอย่างที่เราทำจะต้องตอบโจทย์สอบผ่าน Test ทั้ง 3 ข้อนี้ให้ได้ทุกข้อ ไม่เช่นนั้นเราก็จะไม่ทำ

คู่แข่งมากน้อยแค่ไหน และอะไรคือจุดเด่นที่ทำให้ BLOCK M.D. เหนือกว่าคู่แข่ง

คุณสถาพน : เราออกแบบมาเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่เป็น Open Platform หรือตัวกลางที่ให้ทุกๆ ระบบสามารถเข้ามาต่อเชื่อมได้โดยผ่าน Public API มาตรฐานเดียวกันและใช้ Data Standard ชุดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาล บริษัทประกัน สตาร์ทอัพด้านสุขภาพ หรือหน่วยงานวิจัยต่างๆ

รวมถึง มีการออกแบบระบบให้ปกป้องความเป็นส่วนตัวของข้อมูลผู้ป่วย ใครจะขอเข้าเข้าถึงข้อมูลจะต้องได้รับการยินยอมจากผู้ป่วยซึ่งเป็นเจ้าของข้อมูลเท่านั้น

ในอนาคต BLOCK M.D. มีแผนจะพัฒนาอะไรเพิ่มเติมบ้าง

คุณสถาพน : ในอนาคต BLOCK M.D. จะรองรับข้อมูลการจ่ายยา, ข้อมูลการแพ้ยา, การอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลในกรณี Emergency, และการเคลมประกันสุขภาพทั้งของรัฐและเอกชนให้ทำได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

มีคำแนะนำอย่างไรสำหรับคนที่ต้องการทำ Startup

คุณสถาพน : สิ่งหนึ่งที่สำคัญมากและอยากให้นึกถึงเสมอๆ คือ Execution ไม่ได้หมายถึงว่า Idea, Pain Point, Empathy, Product/Market Fit อะไรพวกนี้ ไม่สำคัญ ทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งสำคัญมาก เพราะมันจะช่วยบอกว่าเราควรจะไปทางไหน แต่ Execution เป็นสิ่งที่บอกว่าจะไปถึงเป้าหมายได้อย่างไร

ที่มา : https://www.bangkokbanksme.com