Admin_support
chalermphol@qmlcorp.com
ผลสำรวจกลุ่มมิลเลนเนียลเอเชีย (614 อ่าน)
28 ธ.ค. 2559 02:36
ไมโครซอฟท์เผยผลสำรวจกลุ่มมิลเลนเนียลเอเชีย ชี้ทิศทางสู่ก้าวต่อไปโลกดิจิทัลปี 2020
1 ใน 3 ของชาวมิลเลนเนียลทั่วเอเชียต้องการสมาร์ทโฟน ขณะที่ 2 ใน 5 กำลังพิจารณาซื้อแท็บเล็ต แล็บท็อป หรืออุปกรณ์ทูอินวัน
ผลสำรวจของไมโครซอฟท์ด้านพฤติกรรมออนไลน์ของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชียในยุคโมบายเฟิร์ส คลาวด์เฟิร์ส พบว่าคนรุ่นใหม่กลุ่มนี้มีความเข้าใจอันดีและตระหนักถึงความเสี่ยงที่มากับโลกไซเบอร์เป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะการใช้อุปกรณ์และบริการด้านดิจิทัลนั้นก้าวเข้ามามีบทบาทสำคัญในชีวิตประจำวันอย่างไม่เคยมีมาก่อน
ออนไลน์โพลครั้งนี้จัดทำขึ้นตั้งแต่เดือนกันยายน 2558 โดยได้ทำการสำรวจกลุ่มมิลเลนเนียลที่มีสัญชาติเอเชียอายุไม่เกิน 25 ปี ทั้งที่ทำงานแล้วและยังศึกษาอยู่ จาก 14 ประเทศที่มีสำนักงานไมโครซอฟท์จัดตั้งอยู่ ได้แก่ ประเทศไทย ออสเตรเลีย มาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลี สาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย ฮ่องกงและไต้หวัน
ภูมิภาคเอเชียประกอบด้วยเยาวชนกว่า 1.1 พันล้านคนซึ่งคิดเป็นกว่าร้อยละ 60 ของประชากรเยาวชนทั่วโลก จึงอาจกล่าวได้ว่า คนกลุ่มนี้จะเป็นผู้กำหนดวิธีการทำงานของแรงงานในอนาคต รวมถึงการใช้ชีวิตในแต่ละวันขึ้นใหม่ ในโลกที่มีความเป็นดิจิทัลมากขึ้นทุกขณะ
ผลการสำรวจยังแสดงให้เห็นถึงความนิยมในอุปกรณ์ดิจิทัลของบรรดาคนกลุ่มนี้ ซึ่งผู้ร่วมตอบแบบสอบถามทุกคนล้วนเป็นเจ้าของสมาร์ทโฟนอย่างน้อยหนึ่งเครื่อง โดยกลุ่มมิลเลนเนียลเลือกใช้โน้ตบุ๊ค หรือแล็บท็อปเนื่องจากมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพการทำงานมากกว่าเดสก์ท็อป พีซี และแท็บเล็ต นอกจากนี้กว่า 40%ของผู้ตอบแบบสอบถามยังเป็นเจ้าของเครื่องเกมส์อย่างน้อย 1 เครื่อง ขณะที่ความนิยมในอุปกรณ์ดิจิตอลไฮเทคชนิดสวมใส่ยังคงอยู่ในระยะเริ่มต้นซึ่งมีเพียง 17% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่มีอุปกรณ์ดิจิตอลไฮเทคดังกล่าว
ผลการสำรวจยังบ่งบอกอีกว่า กลุ่มมิลเลนเนียลกลุ่มนี้ตัดสินใจเลือกซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ด้วยตนเอง โดยมากกว่า 1 ใน 3 ของคนกลุ่มนี้ ต้องการเลือกซื้อสมาร์ทโฟนมากที่สุดเป็นอันดับแรก ตามด้วยแล็บท็อปและแท็บเล็ต (19.3% และ 13.3% ตามลำดับ)
เราค้นพบ 6 ผลสำรวจสำคัญเกี่ยวกับไลฟ์สไตล์ในแบบดิจิทัลของกลุ่มมิลเลนเนียลชาวเอเชียดังนี้
กลุ่มมิลเลนเนียลต้องการความคล่องตัวสูง: กลุ่มมิลเลนเนียลเลือกใช้โน้ตบุ๊ค หรือแล็บท็อปเนื่องจากมองว่าเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยสร้างประสิทธิภาพการทำงานไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนมากกว่าเดสก์ท็อป พีซี และแท็บเล็ต
กลุ่มมิลเลนเนียลต้องการใช้เทคโนโลยีอย่างคล่องแคล่ว: ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือหรือโน้ตบุ๊ค พวกเขาอยากให้ทุกอุปกรณ์ของเขาสามารถใช้จอแบบสัมผัสได้
กลุ่มมิลเลนเนียลต้องการพื้นที่เก็บข้อมูลบนคลาวด์เพื่อความสะดวกยิ่งกว่าเดิม: พวกเขาต้องการเก็บไฟล์บนคลาวด์เพื่อให้สามารถเข้าถึงไฟล์เหล่านี้ได้จากทุกอุปกรณ์และทุกที่
กลุ่มมิลเลนเนียลต้องการโลกดิจิทัลที่ปลอดภัยมากขึ้น: ผู้ร่วมการสำรวจส่วนใหญ่ไม่ชอบหากขาดความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยในวิถีชิวิตดิจิทัลของพวกเขา ซึ่งในความเป็นจริงกว่า 70% ของคนกลุ่มนี้ยินดีจ่ายเงินมากขึ้นเพื่อเพิ่มความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว ดังนั้น เทคโนโลยีที่พวกเขาอยากให้เกิดขึ้นในช่วง 3 ปีข้างหน้านี้คือ การผสานอุปกรณ์ต่างๆเข้ากับเทคโนโลยีไบโอเมทริกส์ อาทิ การสแกนม่านตา เป็นต้น
กลุ่มมิลเลนเนียลต้องการความง่ายในโลกเทคโนโลยีที่ซับซ้อน: ผู้ตอบแบบสอบถาม 610 คนรู้สึกว่าความท้าทายถัดจากเรื่องของความปลอดภัยในโลกดิจิทัล คือการที่ต้องจำรหัสผ่านจำนวนมาก
กลุ่มมิลเลนเนียลเชื่อว่า เทคโนโลยีจะทำให้อนาคตพวกเขาดีกว่าเดิม: ผลการศึกษาพบว่า 70% ของเยาวชนกลุ่มนี้เชื่อว่าเทคโนโลยีสามารถช่วยแก้ไขปัญหาสังคมได้ อาทิ ความไม่เท่าเทียมกัน โรคภัยบางอย่างและปัญหาสิ่งแวดล้อมที่เรากำลังเผชิญในปัจจุบัน
นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างยังได้แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมถึงพัฒนาการของอุปกรณ์ดิจิทัล ที่ตนอยากให้เกิดขึ้นจริงภายในปี 2020 เช่น การแสดงผลด้วยภาพแบบโฮโลกราฟฟิก ผู้ช่วยส่วนตัวเสมือน การสั่งงานอุปกรณ์โดยตรงผ่านความคิด ระบบควบคุมการทำงานด้วยท่าทาง และซอฟท์แวร์ที่ช่วยให้ตนก้าวข้ามข้อจำกัดทางภาษา
ที่มา :http://www.smartsme.tv/
119.76.30.7
Admin_support
ผู้ดูแล
chalermphol@qmlcorp.com