Last updated: 27 ธ.ค. 2559 | 2582 จำนวนผู้เข้าชม |
การทำ E-Commerce นอกจากจะต้องมีสินค้าที่ดีและมีลูกค้าที่คอยใช้บริการแล้ว ปัจจัยหลักอีกอย่างหนึ่งก็คือการขนส่งนั่นเอง
วันนี้เราจะมาพาเจ้าของธุรกิจ E-Commerce และผู้อ่านทุกท่านไปพบกับ Startup สัญชาติฮ่องกง ที่จะมาช่วยให้การขนส่งในธุรกิจของทุกคนเป็นไปได้อย่างมั่นใจ ปลอดภัย และรวดเร็ว ด้วยบริการของ Lalamove นั่นเอง
ตอนนี้เราอยู่กับคุณสันทิต จีรวงศ์ไกรสร Co-founder และ Managing Director ของ Lalamove ซึ่งก่อนอื่นเราต้องอธิบายให้ทุกคนเข้าใจไปพร้อม ๆ กันก่อนว่า Lalamove คืออะไร และมีประโยชน์อย่างไร ซึ่ง Lalamove นี้อธิบายง่าย ๆ ก็คือแอปพลิเคชันบนมือถือที่ใช้เรียกให้แมสเซ็นเจอร์ไปส่งของตามที่ต่าง ๆ ซึ่งรถที่คอยให้บริการของ Lalamove มีอยู่ 3 ประเภทด้วยกันคือ มอเตอร์ไซค์ รถกระบะ และรถ 5 ประตู ถ้ากดเรียกผ่านแอปพลิเคชันรถก็จะมารับของถึงที่เลยภายในระยะเวลาประมาณ 15-20 นาที โดยขนาดและน้ำหนักของสินค้าก็สามารถตรวจเช็กเกณฑ์ในแอปพลิเคชันได้เลยเช่นกัน
ในระยะเวลาปีครึ่งของการเปิดตัวในประเทศไทย Lalamove กลับได้รับการตอบรับมากกว่าบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เปิดตัวมาก่อนหลายปีอีกหลาย ๆ เจ้า เพราะการเติบโตของ Lalamove การเติบโต 15-40% ทุกเดือน ทำให้วงการโลจิสติกส์ไทยต้องหันมามองให้ความสนใจกันเป็นตาเดียว “ถ้านับเฉพาะค่าขนส่งอย่างเดียว ปีที่แล้วอยู่ที่ 23 ล้านบาท” นับว่าประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้นเลยกับธุรกิจที่เริ่มต้นขึ้นจากศูนย์อย่าง Lalamove
หลายคนอาจจะคิดว่าเพราะธุรกิจตัวนี้ถูกนำเข้าจากต่างประเทศรึเปล่า จึงทำให้การันตีความสำเร็จมาได้ขนาดนี้ ต้องบอกตรงนี้เลยนะครับว่าไม่ใช่แน่นอน เพราะเนื่องจากการทำธุรกิจในต่างประเทศ กฎข้อบังคับ การบริหารทุกอย่างต่าง ๆ เป็นสิ่งที่แตกต่างกัน ทำให้ต้องเกิดการศึกษาและลงมือทำทุกอย่างใหม่ทั้งหมด ซึ่งคุณแพรเล่าให้ฟังถึงเรื่องนี้ว่า “การทำการขนส่งแบบนี้ แต่ละตลาดก็จะไม่เหมือนกัน ฮ่องกงเป็นเมืองที่คนย้ายเข้าออกเยอะ มีลูกค้าที่ใช้บริการ Lalamove ขนส่งเฟอร์นิเจอร์อยู่มาก ทำให้ต้องใช้รถใหญ่มากกว่า แต่ของกรุงเทพส่วนมากจะเป็นมอเตอร์ไซค์ เพราะรถค่อนข้างติด ก็จะทำให้ส่งได้ไวกว่า แต่กรุงเทพจริง ๆ แล้วใหญ่กว่าฮ่องกงมาก ดังนั้นถึงแม้ว่ามอเตอร์ไซค์เร็วกว่าก็ไม่ได้แปลว่าจะไปถึงจุดหมายได้ไวกว่า เพราะระยะทางเราไกลกว่าเค้า ตลาดแต่ละตลาดก็ไม่เหมือนกัน เราจึงต้องดูว่าตลาดไหนมีเครื่องมือสินค้าไหนที่เหมาะสมมากกว่ากัน”
และนอกจากกลยุทธ์การทำธุรกิจที่แตกต่างจากต้นฉบับอย่างทางฮ่องกงแล้ว ชื่อที่ใช่ในปัจจุบันของ Lalamove เองก็ไม่ใช่ชื่อที่ใช้ในฮ่องกงเช่นกัน ทำให้ไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง คุณสันทิต ต้องมาลงมือลงแรงเรียกลูกค้ากระตุ้นยอดขายเองทั้งหมด “กลยุทธ์ของ Lalamove เราไม่ได้โตมาจากการตลาด เราโตมาจากการบอกต่อของลูกค้า 65-69% ของลูกค้ามาจากเพื่อนที่เคยใช้มาก่อน ซึ่งสิ่งนี้เองที่เป็นการตลาดที่ยอดเยี่ยมที่สุด” และตัวที่ทำให้ Lalamove เติบโตมาขนาดนี้ได้ก็เป็นเพราะการแมตช์กันอย่างลงตัวและความน่าเชื่อถือของเค้านั่นเอง “เรามีโปรแกรมที่ช่วยให้คนขับมีชีวิตที่ดีขึ้น เค้าสามารถเลือกได้ว่าจะรับหรือไม่รับงาน รับเต็มเวลาหรือพาร์ทไทม์ก็ได้เช่นกัน ทางด้านลูกค้าเราทำการตลาดเอง เป็นการดึงลูกค้ามา มีคอลเซ็นเตอร์ที่คอยให้บริการอยู่ตลอดเวลา เราเป็น Full Service มีประกันให้ด้วยคือ มอเตอร์ไซค์ประกัน 3,000 บาทต่อเที่ยว รถใหญ่ 7,000 บาทต่อเที่ยว มีระบบติดตามรถแบบเรียลไทม์ อัพเดตสถานะให้ดูว่าของไปถึงรึยัง เรียกใช้บริการได้ 24 ชั่วโมง” ด้วยบริการที่ครบครันและครอบคลุมถึงขนาดนี้ เรียกได้ว่าพวกเค้าทำการบ้านมาอย่างดีและเหมาะสมกับการเติบโตในอัตราส่วน 15-40% ต่อเดือนจริง ๆ
มาถึงประเด็นหลักที่ E-Commerce ทั้งหลายตั้งตารอรับชม กับประเด็นคำถามที่ว่า Lalamove ตอบโจทย์และเอื้อประโยชน์อะไรให้กับพวกเขา ซึ่งทางคุณแพรให้ความเห็นไว้ว่า “99.5% ของงานที่ถูกกดเรียก จะมีคนขับรถรับงานนั้น ๆ และไปส่งให้ได้ถึงที่ ถือว่าเป็นบริการระดับที่ดีมาก เราไม่มีรถเป็นของตัวเองเลย แต่เราทำได้ขนาดนี้ ตอนเราเข้ามาตอนแรกเมื่อปีก่อนยังไม่มีใครทำแบบเราเลย การหาคนขับเข้ามา โปรแกรมที่เราวางไว้ และนโยบายที่เรามี ทุกอย่างเราเป็นคนคิดเองทั้งหมด และอัตราความเสียหายของสินค้าเราก็อยู่ที่ 0.1% ถือว่าน้อยมาก เพราะฉะนั้นดีกว่าเจ้าอื่นแน่นอน เราพยายามใช้เทคโนโลยีมาช่วยเหลือให้ E-Commerce สบายใจที่สุด”
นอกเหนือจากบริการต่าง ๆ ที่มีระดับสูง ความปลอดภัยเป็นเลิศแล้ว ปัจจัยที่ E-Commerce ทั้งหลายควรหันมาใช้งาน Lalamove ก็เพราะ “คนขับเรามีมารยาทดีมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ลูกค้าชอบ คนขับไม่ใช่ว่าจะรับงานได้เลย เรามีการทำเทรนนิ่ง เราเก็บเอกสารของคนขับ บัตรประชาชน ใบขับขี่ ทะเบียนบ้าน เบอร์ติดต่อทั้งหมด และที่เราทำเพิ่มเติมก็คือ เราเป็นบริษัทเดียวที่ตรวจสอบประวัติอาชญากรรม ไม่มีโลจิสติกส์เจ้าไหนทำแบบนี้ ซึ่งมันชี้ให้เห็นว่า Lalamove มีคนขับที่ไว้ใจได้จริง ๆ”
“เทรนด์ของคนทำ E-Commerce มันมีเยอะ หลาย ๆ อย่างมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับเราอย่างเดียว มันมีอะไรที่ควบคุมไม่ได้อยู่ ถ้าเฟลก็อย่าไปท้อ หลาย ๆ คนที่อยู่ในวงการนี้ก็เฟลกันมาหลายครั้ง แต่สำเร็จครั้งเดียวก็ไปได้ไกล ทำแล้วถ้าประสบความสำเร็จระดับนึงก็ดีแล้ว เพราะอัตราที่จะเฟลมันอยู่ที่ 90% เวลาทำต้องมั่นใจว่าเราตั้งใจจะทำจริง ๆ ต้องตั้งใจคิด ตั้งใจหาความรู้ หาเหตุผล และหาทิศทางที่เราอยากให้มันเป็นด้วย”
สนใจลงทุนธุรกิจสามารถปรึกษา Bangkok Bank SME เราเป็นเพื่อนคู่คิด มิตรคู่บ้านทุกช่วงการเติบโตของธุรกิจ สายด่วน 1333
28 ก.ย. 2561
16 ก.ย. 2561
5 ก.ย. 2561
16 ก.ย. 2561